ทุกสุดสัปดาห์ เรามีนัดกันที่นี่ทุกครั้ง กับกิจกรรมออกกำลังกายเพื่อสุขภาพชื่อไม่คุ้นหูในแวบแรก นั่นคือ ‘พิลาทีส’
เรารู้จักกิจกรรมนี้ครั้งแรกเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว จากเพื่อนที่มาเรียนพิลาทีสที่นี่เช่นเดียวกัน หลังจากได้ยินกิตติศัพท์การออกกำลังกายนี้ว่า ช่วยยืดเส้น บรรเทาอาการปวดเมื่อยจากโรคของคนทำงานอย่างออฟฟิศซินโดรม และช่วยปรับบุคลิกภาพ ท่าทางนั่ง ยืน ให้ถูกสรีระมากขึ้น
แต่ก่อนเรียน เรามีคำถามในหัวมากมาย พิลาทีสคืออะไร? คล้ายๆ โยคะมั้ย? ต้องห้อยหัวตีลังกาแปลกๆ มั้ย? แล้วมันจะอันตรายมั้ย? แต่หลังจากเรียนไปได้ 2-3 ครั้ง ก็พบว่าไม่ยากและอันตรายขนาดนั้น
ที่แน่ๆ มันไม่เหมือนโยคะ เพราะมีอุปกรณ์ช่วยในการออกท่าทางต่างๆ และไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดอันตราย เพราะครูผู้สอนจะรู้ศักยภาพของผู้เรียน (อย่างเรา-ที่เรียนพละสมัยมัธยมได้อย่างมากก็เกรด 3 ในขณะที่ทั้งห้องได้เกรด 4) และช่วยยืนคุมให้ตลอดในบางท่า หากเห็นว่าผู้เรียนเริ่มจัดท่าไม่ไหว จะช่วยพยุงและหยุดการฝึกท่านั้นทันที
หลังจากผ่านการเรียนไปสี่ครั้ง เราพบว่าอาการตึงปวดที่เคยเป็นมานับสิบปีนั้นคลี่คลายลง แถมยังได้ฝึกท่ายืนนั่งที่ถูกต้องตอนอยู่บ้านเพื่อเสริมบุคลิกอีกทาง (ใช่, เรายืนหลังค่อมมานาน ครูฝึกว่าอย่างนั้น)
และระหว่างที่เราฝึกอยู่นั้น ครูสมุย-ปรียานุช ลิ่วลักษณ์ ก็ทำการสอนให้เรา (ผู้ซึ่งมีทักษะด้านพลศึกษาต่ำ ดังที่กล่าวไป) ด้วยวิธีการที่เข้าใจง่าย ทำตามได้ง่าย รู้ขีดจำกัดของผู้เรียน และปลอดภัย ท่ามกลางบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เป็นกันเอง ในบ่ายวันเสาร์ที่มีฝนโปรยอยู่ภายนอก หลังสิ้นสุดคลาส เราจึงได้นั่งคุยกับครูสมุย ถึงเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกายประเภทนี้
จุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณสนใจพิลาทีสคืออะไร
เริ่มตั้งแต่สมัยเรียนคณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งมีวิทยากรครูสอนพิลาทีสมาให้ความรู้ด้านพิลาทีสค่ะ ทำให้รู้ว่าเป็นการออกกำลังกายอีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยรักษาร่างกายได้ ซึ่งเราชอบมาก คิดว่าถ้าเรียนจบมาได้มีโอกาสศึกษาด้านนี้เพิ่มเติมน่าจะดี
พิลาทีสมีจุดประสงค์ช่วยบำบัดอาการอะไรได้บ้าง
พิลาทีสเป็นการออกกำลังกายสร้างความแข็งแรงกล้ามเนื้อแกนกลาง เน้นการควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกายร่วมกับการหายใจที่ถูกต้องกล้ามเนื้อจะมีความยืดหยุ่นและสมดุลมากขึ้น บุคลิคภาพดีขึ้น ดังนั้น พิลาทีสสามารถช่วยบำบัดอาการปวดต่างๆ และโรคที่มีปัญหาที่กระดูกสันหลัง เช่น ปวดหลัง ปวดคอ ออฟฟิศซินโดรม หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น กระดูกสันหลังคด เป็นต้น
เห็นคุณพูดถึงออฟฟิศซินโดรม แล้วพิลาทีสลดอาการเจ็บปวดจากออฟฟิศซินโดรมได้อย่างไร
Office Syndrome เกิดจากการใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำ อยู่ในท่านั่งหน้าคอมพิวเตอร์ หรือก้มเล่นมือถือนานๆ กล้ามเนื้อคอบ่าด้านหลังจะเกร็งเพื่อพยายามดึงคอและศรีษะกลับ เกิดความไม่สมดุลร่างกาย คอยื่น หลังค่อม ไหล่งุ้ม และมีอาการปวดค่ะ ซึ่งการออกกำลังกายพิลาทีสจะช่วยให้กล้ามเนื้อเกิดความสมดุล โดยสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางและสะบัก ยืดเหยียดกล้ามเนื้อกลุ่มคอบ่าไหล่ เมื่อกล้ามเนื้อมีการใช้งานอย่างสมดุลอาการปวดจะลดลง ลดการบาดเจ็บ แรงกดที่กระดูกสันหลังได้ ทำให้บุคลิกภาพดีขึ้นด้วย
คนที่เริ่มสนใจ เห็นภาพหรือคลิปแบบผ่านตา อาจจะมองว่าพิลาทีสมีความคล้ายคลึงกับโยคะ แล้วความแตกต่างระหว่างพิลาทีสกับโยคะคืออะไร
ต่างกันแน่ๆ ค่ะ เพราะอย่างที่บอกไปว่าพิลาทีสจะเน้นสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลาง เสริมความยืดหยุ่นและมีการเคลื่อนไหวร่างกายที่ต่อเนื่องตามหลักกายวิภาคศาสตร์ ส่วนโยคะจะเน้นสร้างความยืดหยุ่นควบคู่กับการฝึกหายใจ ฝึกจิตใจให้ผสานกับร่างกาย
บางคนมีภาพจำว่าพิลาทีสน่าจะเป็นการออกกำลังกายของผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ผู้ชายไม่น่าเหมาะกับการออกกำลังกายแบบนี้ คุณมีความเห็นอย่างไร
สำหรับเรา คิดว่าพิลาทีสเหมาะกับทุกเพศทุกวัยค่ะ ซึ่งจริงๆ คนคิดค้นพิลาทีสเป็นผู้ชายนะคะ ชื่อโจเซฟ พิลาทีส ตอนเด็กๆ คุณโจเซฟเป็นเด็กที่ป่วยบ่อย จึงพยายามออกกำลังกายทุกรูปแบบจนร่างกายแข็งแรง และคิดค้นผสมศาสตร์การออกกำลังกายจนมาเป็นพิลาทีส เพราะฉะนั้น ผู้ชายก็เรียนได้ ส่วนใหญ่ผู้ชายจะชอบเน้นความแข็งแรงมัดใหญ่แต่จะไม่ค่อยยืดกล้ามเนื้อ พอตึงมากๆ จะมีปัญหาข้อต่อเคลื่อนไหวได้ไม่สุด พิลาทีสช่วยแก้เรื่องนี้ดีมากๆ
แล้วพิลาทีสมันจะมีความยากง่ายแค่ไหนในการฝึก ผู้เรียนอาจมีความรู้สึกอยากเลิกแล้วไปเล่นอย่างอื่นบ้างหรือไม่ จุดที่เลือกระหว่างไปต่อกับล้มเลิกมีแรงบันดาลใจอย่างไร
พิลาทีสมีความไม่ยากและไม่ง่ายจนเกินไปค่ะ เพราะในละท่ามีการลดหรือเพิ่มระดับความยากได้ เพราะฉะนั้น คนที่ไม่เคยเล่นหรือกลัวยากไม่ต้องกังวลเลย แต่เราจะเน้นให้ร่างกายได้ควบคุมและใช้กล้ามเนื้อได้อย่างเต็มศักยภาพ ยิ่งฝึกบ่อยจะรับรู้ได้เลยว่าเราจะทำได้ดีขึ้น ท่าไหนที่ทำไม่ได้วันนี้ ฝึกซ้ำ วันหน้าจะค่อยๆ พัฒนาแน่นอน ที่สำคัญ คุณต้องใจเย็นๆ กับร่างกายตัวเองด้วย ส่วนตัวมีบางท่าที่รู้สึกยาก แต่ก็ไม่ยอมแพ้ค่ะ
คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับสภาพร่างกายสามารถเล่นพิลาทิสได้ไหม แล้วจริงๆ อะไรคือข้อจำกัดของการออกกำลังกายประเภทนี้
คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับสภาพร่างกายสามารถฝึกพิลาทีสได้ค่ะ เพราะพิลาทีสค่อนข้างเป็นการออกกำลังกายที่ปลอดภัย ไม่มีแรงกระแทก มีอุปกรณ์ที่ช่วยให้ฝึก ปรับยากง่ายได้ ฝึกได้ทุกช่วงอายุเลย ข้อจำกัดจริงๆ ของการฝึกพิลาทีสน่าจะสำหรับคนที่มีอาการปวดเฉียบพลัน คนที่มีอาการเจ็บปวดหนักๆ ที่ควรพบแพทย์ก่อน
ถ้าไม่มีอุปกรณ์ เราสามารถฝึกพิลาทีสด้วยตัวเองได้หรือไม่
ฝึกได้ค่ะ โดยฝึกจากท่าออกกำลังกายพิลาทีสบนเสื่อ
พิลาทิสจริงๆ แล้วเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่ต้องการทำกายภาพบำบัดได้ไหม เพราะบางคนเรียนแล้วเหมือนได้ทำกายภาพบำบัดเลย
ส่วนตัวเรามองว่า การออกกำลังกายพิลาทีสถือเป็นการออกกำลังกายเชิงรักษาค่ะ เพราะในทางกายภาพบำบัด จะมี Therapeutic Exercise ซึ่งเป็นวิชาการใช้การออกกำลังกายมาบำบัดรักษาให้ร่างกายลดปวด มีการเคลื่อนไหวดีขึ้น โดยออกแบบโปรแกรมอย่างมีจุดประสงค์ ว่าเล่นท่านี้เพื่อช่วยอะไร แก้อะไร เช่น เล่นกล้ามเนื้อก้น ยืดข้อสะโพกด้านหน้าเพื่อลดอาการตึงหน้าขาจากการนั่งนาน และเพิ่มกล้ามเนื้อข้อสะโพกให้แข็งแรง เพื่อให้นั่งได้นานโดยไม่ปวดเมื่อย ฯลฯ ซึ่งครูพิลาทีสที่สอนควรมีความรู้ความเข้าใจในท่าที่จะสอนด้วยค่ะ
การสอนพิลาทีสของคุณ ก่อให้เกิดเรื่องราวดีๆ สร้างแง่บวกหรือความภูมิใจให้กับคุณอย่างไรบ้าง
มีนักเรียนหลายคนที่หลังจากฝึกพิลาทีส อาการปวดและบาดเจ็บดีขึ้น กลับไปทำงานได้เต็มที่ คุณภาพชีวิตดีขึ้น เขายิ้มออก เราก็รู้สึกดีใจที่ช่วยเหลือเขาได้ เพราะคนเราพอรู้สึกเจ็บหรือปวดตามร่างกาย มันกระทบการใช้ชีวิตประจำวันมากนะ เราก็รู้สึกว่าสิ่งที่เราทำช่วยให้คนที่มีอาการปวดแต่ยังไม่ถึงขั้นต้องไปโรงพยาบาลหาหมอนั้นดีขึ้นได้ มันดีมาก อันนี้ก็รู้สึกว่าเติมเต็มตัวเองเลย เพราะเราเชื่อในการออกกำลังกายมากว่ามันใช้รักษาได้ พอเจอพิลาทีสก็รู้สึก… ใช่เลย รักเลย (ยิ้ม)
ขอขอบคุณ Regenelife Vital Center ราชดำริ เอื้อเฟื้อสถานที่
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/Regenelife/